วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

stand by me

บายอกสบายใจขึ้นเยอะเลย... เมื่อผมไม่รับข่าวสารการเมือง ไม่ดูบอลโลก ไม่อ่านข่าวบรรดาบิ๊ก ๆ ทั้งหลาย ทั้งในสภา ดารา หรือศาสนาที่ร่ำรวย ฯลฯ คิดว่าตัดใจและทำใจแล้วครับ ใช้เวลาที่เหลืออยู่ไม่มาก เปิดเพลงฟีง อ่านหนังสือ-นิตยสาร และดูรูปภาพสวย ๆ ดีกว่า  

ภาพจากอินเทอร์เน็ต - ขอขอบคุณ
 
แค่รูป ๆ เดียวมันก็ให้อะไรหลาย ๆ อย่างกับจิตใจ ผมไม่ปรารถนาอะไรอีกแล้ว ยศถาบรรดาศักดิ์หรือเงินทองมหาศาล (มิได้เห็นองุ่นเปรี้ยวนะ) ผมคิดถึงคำพูดของ Hank Marvin เอ้ยไม่ใช่ เพื่อนยงยุทธ ที่ให้สติผมเมื่อครั้งมาเยือนเร็ว ๆ นี้ว่า "ดูเหมือนว่าเราสองคนจะไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่...ได้เรียนรู้และความคิดของเราอยู่เหนือขึ้นไปจากคนอื่น ๆ แล้ว พวกเขาไม่เข้าใจเราหรอก เราไปไกลกว่าที่เขาคิด...." 

 
จริงดิ เพื่อนยุทธ คิดแล้วก็ดีใจนะที่เกิดมามีเพื่อนดี ๆ มากมาย หลายคนเคยเป็นใหญ่เป็นโต มีธุรกิจการค้าร่ำรวย แต่เจ้าคนสวมแว่นตาที่ยังคงมีชีวิต ยังได้ปั่นจักรยาน เขียนบล็อก อ่านหนังสือ ฟังเพลง ฯลฯ
 
 
มีโอกาสได้เล่นดนตรีกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นแค่ชายซึ่งอยากให้คนเรียกว่าลุงมากกว่าอาจารย์...


อาหารการกินผมก็ไม่ได้หรู ไม่เคยซื้อสตาร์บั๊ค ไม่เคยเข้าเหลา แต่เคยไปนั่งกินกับเพื่อนชาวพม่าในงานบวชลูกแก้วที่ปะโคะกู (Pakokku)


เพื่อนที่เล่นดนตรีด้วยกันจากโลกนี้ไปหมดแล้ว (ขออนุญาตโพสต์ภาพด้วยความเคารพ) 
 
 
เหลือแต่เจ้าคนเล่นเบสคนเดียวที่ยังอยากเล่นดนตรีและร้องเพลงกล่อมโลก...
 

มือออร์แกนที่เตยเล่นให้ศิลปินแห่งชาติ สุเทพ วงศ์กำแหง ไม่คิดติดใจกับชีวิตที่ผ่านมาแล้ว...


ทุกวันนี้ขอแค่เพียงมีเพื่อน ๆ stand by me ก็ดีแล้ว!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Back in the Saddle Again

  ผ่ านพ้น time to clean up  วันนี้ผมนำเตียงกลับขึ้นสู่ห้องพยาบาลบนชั้นสองเรียบร้อยแล้ว (ขอขอบคุณคุณอู๊ดเพื่อนบ้านที่ช่วยยก)     ประกอบกล...