เช้าตรู่วันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๙... ออกจากเมืองอุดมไชย สปป.ลาว ผมปั่นจักรยานพับมาบนทางหลวงหมายเลข 4A มุ่งหน้าสู่เมืองหงสา
ต้องเผชิญกับความสูงชันของเส้นทางผ่านเทือกเขา ความหิวกระหายเมื่อขาดน้ำและอาหาร รวมทั้งสูดอากาศที่มีมลภาวะจากการเผาป่า ดังได้เขียนเล่าไว้แล้วใน The unforgettable ride
โชคดีได้พบคนลำพูน ๒ คน คืออาจารย์จัตุรัสและเพื่อนทนาย ซึ่งขับรถปิกอัพผ่านมาเจอตาแก่เมืองรถม้าแล้วช่วยให้เดินทางกลับถึงบ้านที่ห้างฉัตรได้ก่อนกำหนด
กาลเวลาผ่านไปเร็วไวยิ่งนัก! เย็นวันนี้ผมมีโอกาสได้พบกับชายใจดี ๒ คนที่เคยช่วยผมเมื่อ ๔ ปีที่แล้วอีกครั้ง อาจารย์จัตุรัสและเพื่อนทนายขี่จักรยานยนต์แวะมาเยี่ยมถึงบ้าน...
เป็นการได้รวมตัวกันอีกครั้ง (reunion) ของชายสูงวัย ๓ คน...
ทำไมผมถึงได้คิดว่าเค้าท์ดาวน์มา ๔ ปีแล้ว? เมื่อเริ่มนับถอยหลัง (countdown)
ก็หมายความว่าผมตระหนักแล้วว่า ชีวิตต่อจากนี้ไปทุกอย่างล้วนเสื่อมถอย
มีหลายครั้งที่ผมบอกตัวเองว่าความตายไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเลย!
มาพบกันวันนี้เราก็แก่ลงไป แม้ว่าจะยังมีฝันอยู่บ้าง แต่ก็เป็นแค่เพียงการใช้ชีวิตบั้นปลายให้คุ้มค่าเท่าที่ทำได้ การเดินทางท่องเที่ยวเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม เพื่อนทนายมากับรถคันแดง...
อาจารย์จัตุรัสมากับเจ้าสีนิล...
เห็นขวดน้ำที่อยู่หน้ารถ ผมคิดถึงวันที่อาศัยมากับรถปิกอัพของอาจารย์จัตุรัส เมื่อผมต้องเรียกขอน้ำดื่มเพื่อดับกระหาย...
คุยกับเพื่อนผู้มาเยือนเกี่ยวกับ final trip ผมพูดถึงความคิดที่จะยุติการเดินทางอันยาวไกลแล้วทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างลงในปล่องภูเขาไปในอินโดนีเซียหรือนิวซีแลนด์
เจษฎา บัวบาล ได้เขียนไว้ในเว็บประชาไทในบทความเรื่อง "การฆ่าตัวตายไม่ใช่เรื่องเลวร้าย" ว่า...
พระอรหันต์และโพธิสัตว์ฆ่าตัวตายแล้วถูกยกย่องใน วักกลิสูตร (สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค ข้อ 215-221) พระวักกลิได้ป่วยหนักและทรมานมาก จึงบอกให้พระช่วยนิมนต์พระพุทธเจ้ามาเยี่ยม พระองค์ได้เทศน์เรื่องขันธ์ห้าไม่เที่ยง เป็นทุกข์และไม่ใช่ตัวตนให้ฟัง ซึ่งพระวักกลิก็เห็นด้วยและบอกว่า ตนเข้าใจในสิ่งนั้น จนไม่มีความยึดติดผูกพันธ์กับร่างกายนี้ แต่กระนั้น อาการปวดก็ไม่ได้ลดลง พระพุทธเจ้าตรัสว่า “อย่ากลัวเลย ความตายอันไม่ต่ำช้าจะมีแก่เธอ” หมายถึง เมื่อตายไปจะไม่ตกนรกหรืออบายภูมิแน่ อาจเพราะพระองค์มั่นใจว่าพระวักกลิไม่ยึดติดในขันธ์นี้แล้ว
สุดท้ายพระวักกลิก็เลือกจะจบชีวิตด้วยเองด้วยการฆ่าตัวตาย และพระพุทธเจ้าก็ตรัสรับรองว่า วักกลิจะไม่ไปเกิด เพราะเขาบรรลุธรรมและนิพพานแล้ว เช่นเดียวกับพระฉันนะ ที่ฆ่าตัวตายเพื่อหนีความเจ็บป่วย แต่ก่อนตายท่านมีความกลัวมาก ท่านได้ใช้สติพิจารณาความกลัวจนเกิดความเข้าใจว่าความกลัวก็เป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์และไม่มีตัวตน ท่านจึงได้บรรลุธรรมไปก่อนตายนั่นเอง การฆ่าตัวตายของพระวักกลิและฉันนะจึงไม่ได้รับการตำหนิ เพราะท่านถูกทำให้เชื่อว่า เป็นพระอรหันต์ แม้ตายก็ไม่เกิดใหม่แล้ว
ojs.mcu.ac.th เขียนว่า...
การฆ่าตัวตายเป็นข้อเท็จจริงที่สามารถพบได้ในทุกสังคมในโลกนี้ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน และศาสนาทุกศาสนายืนยันว่า การฆ่าตัวตายเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรทำและผิดศีลธรรม โดยเฉพาะพระพุทธศาสนา พระองค์ตรัสว่า “กิจฺโฉ มนุสฺสปฺปฎิลาโภ การได้เกิดเป็นมนุษย์เป็นสิ่งยากยิ่ง” ฉะนั้นมนุษย์ควรรักษาชีวิต เพื่อพัฒนาตนเองไปสู่เป้าหมายสูงสุด
romyenchurch.org เขียนว่า...
พระคริสตธรรมคัมภีร์มีพระบัญญัติว่า "อย่าฆ่าคน" ไม่ว่าจะฆ่าตัวเองหรือฆ่าผู้อื่น ชีวิตมาจากพระเจ้า พระเจ้าเป็นเจ้าของชีวิต ฉะนั้นเราไม่มีสิทธิ์ที่จะทำลายมัน...isranews.org เขียนว่า
การฆ่าตัวตายถือเป็นบาปใหญ่และถือเป็นหายนะที่มนุษย์พึงหลีกเลี่ยง คัมภีร์กุรอานได้กล่าวเตือนสติมนุษย์ความว่า “...และพวกเจ้าจงอย่ายื่นมือของพวกเจ้าเข้าไปสู่ความหายนะ...” (อัลกุรอาน 2:195)
(ขอขอบคุณที่มาของทุก ๆ ข้อมูล)
อีก ๔ ปี...ผมจะมีโอกาสได้มายืนอยู่หน้าบ้านห้างฉัตร รอรับเพื่อน ๆ สูงวัยที่แวะมาเยือนเช่นนี้อีกหรือเปล่า?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น