ผมนำกระป๋องเพาะต้นไม้มาวางไว้ริมหน้าต่างให้ได้รับแสงสว่าง แล้วคอยพรมน้ำให้บ้างตามสมควร...
มิได้เป็นคนมือเย็น ผมไม่ได้ตั้งความหวังว่าต้นไม้ที่เพาะเลี้ยงภายใต้ฝ่ามือของตาแก่บ้านห้างฉัตรคนนี้จะเติบโตงอกงาม ในใจคิดว่า เกิดมา-ตั้งอยู่-ดับไป อยู่เสมอ วันนี้มีโอกาสได้นำสมุดเก็บ clipping ออกมาเปิดดู...
ในพจนานุกรม ให้ความหมาย clipping ว่าเป็น "กฤตภาค, ข่าวในหนังสือพิมพ์ที่ตัดเป็นชิ้นๆ การเล็มออก สิ่งที่ใช้ตัดหรือเล็ม ข่าวสารที่ตัดจากหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร...." ผมเป็นคนอย่างเนี้ยแหละ คือชอบสะสมอะไรต่ออะไรเอาไว้ ไม่คิดหรอกว่ามันจะกลายเป็นขยะในวาระสุดท้ายของชีวิตผม
มันอาจดูไร้ค่าสำหรับคนอื่น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนรุ่นใหม่) แต่ผมกลับรู้สึกภูมิใจที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้บรรจงตัดเก็บข่าวหรือบทความที่มีประโยชน์จากหน้าหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารเก็บไว้ และรูปของ ศาสตราจารย์ ระพี สาคริก ที่ผมตัดเก็บไว้ ก็ทำให้ต้องคิดถึงบุคคลผู้ที่ผมเคารพและศรัทธาในความดีของท่านเสมอมา เคยติดตามดูรายการที่ท่านจัดทางโทรทัศน์ อ่านหนังสือที่ท่านเขียน จนกระทั่งถึงวันที่ท่านจากหายไป...
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี กล่าวว่า...
ศาสตราจารย์ ระพี สาคริก "บิดาแห่งกล้วยไม้ไทย" (4 ธันวาคม พ.ศ. 2465 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561) ราษฎรอาวุโส นักวิจัย นักวิชาการเกษตรผู้บุกเบิกวงการกล้วยไม้ของประเทศไทยสู่สากล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นอดีตนายกสภาสถาบันอาศรมศิลป์
ศาสตราจารย์ระพี สาคริกเคยดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในรัฐบาลพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ รวมทั้งตำแหน่งอื่น ๆ ที่สำคัญอีกมากมาย แม้จะเกษียณอายุราชการนานแล้วก็ตาม ศาสตราจารย์ระพี สาคริกก็ยังได้รับความเคารพยกย่องเป็นปูชนียบุคคล โดยเฉพาะในวงการศึกษาและวงการกล้วยไม้ จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น บิดาแห่งกล้วยไม้ไทย
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางศาลมีคำสั่งให้ศาสตราจารย์ระพี สาคริก เป็นคนไร้ความสามารถ ให้อยู่ในความอนุบาลของนางมาลีกันยา สาคริก ผู้ร้อง ตามคดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ 712/2560 คดีแพ่งหมายเลขแดงที่ พ 996/2560 โดยระบุว่ายื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ศาสตราจารย์ระพีเป็นคนไร้ความสามารถและให้อยู่ในความอนุบาลของ มาลีกันยา สาคริก บุตรสาวของศาสตราจารย์ระพี เนื่องจากป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ โรคพาร์กินสัน มีอาการสมองเสื่อม และโรคถุงลมเรื้อรัง ไม่สามารถทำงานและช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องมีคนคอยดูแลตลอดเวลา ถือว่าเป็นบุคคลวิกลจริต ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 28 โดยประกาศในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2560 ศาสตราจารย์ระพีถึงแก่อนิจกรรมในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 จากภาวะเลือดเป็นพิษเหตุติดเชื้อ สิริรวมอายุ 95 ปี
ภาพจาก moac.go.th - ขอขอบคุณ |
ความดีและผลงานของท่านมีมากมายเหลือคณานับ ผมขอกราบคารวะด้วยความเคารพยิ่งครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น