วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2568

คิดถึง ศจ. ระพี สาคริก

มนำกระป๋องเพาะต้นไม้มาวางไว้ริมหน้าต่างให้ได้รับแสงสว่าง แล้วคอยพรมน้ำให้บ้างตามสมควร...

มิได้เป็นคนมือเย็น ผมไม่ได้ตั้งความหวังว่าต้นไม้ที่เพาะเลี้ยงภายใต้ฝ่ามือของตาแก่บ้านห้างฉัตรคนนี้จะเติบโตงอกงาม ในใจคิดว่า เกิดมา-ตั้งอยู่-ดับไป อยู่เสมอ วันนี้มีโอกาสได้นำสมุดเก็บ clipping ออกมาเปิดดู...

 

ในพจนานุกรม ให้ความหมาย clipping ว่าเป็น "กฤตภาค, ข่าวในหนังสือพิมพ์ที่ตัดเป็นชิ้นๆ การเล็มออก สิ่งที่ใช้ตัดหรือเล็ม ข่าวสารที่ตัดจากหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร...."   ผมเป็นคนอย่างเนี้ยแหละ คือชอบสะสมอะไรต่ออะไรเอาไว้ ไม่คิดหรอกว่ามันจะกลายเป็นขยะในวาระสุดท้ายของชีวิตผม

มันอาจดูไร้ค่าสำหรับคนอื่น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนรุ่นใหม่) แต่ผมกลับรู้สึกภูมิใจที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้บรรจงตัดเก็บข่าวหรือบทความที่มีประโยชน์จากหน้าหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารเก็บไว้ และรูปของ ศาสตราจารย์ ระพี สาคริก ที่ผมตัดเก็บไว้ ก็ทำให้ต้องคิดถึงบุคคลผู้ที่ผมเคารพและศรัทธาในความดีของท่านเสมอมา เคยติดตามดูรายการที่ท่านจัดทางโทรทัศน์ อ่านหนังสือที่ท่านเขียน จนกระทั่งถึงวันที่ท่านจากหายไป...


วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี กล่าวว่า...

ศาสตราจารย์ ระพี สาคริก "บิดาแห่งกล้วยไม้ไทย" (4 ธันวาคม พ.ศ. 2465 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561) ราษฎรอาวุโส นักวิจัย นักวิชาการเกษตรผู้บุกเบิกวงการกล้วยไม้ของประเทศไทยสู่สากล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นอดีตนายกสภาสถาบันอาศรมศิลป์

ศาสตราจารย์ระพี สาคริกเคยดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในรัฐบาลพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ รวมทั้งตำแหน่งอื่น ๆ ที่สำคัญอีกมากมาย แม้จะเกษียณอายุราชการนานแล้วก็ตาม ศาสตราจารย์ระพี สาคริกก็ยังได้รับความเคารพยกย่องเป็นปูชนียบุคคล โดยเฉพาะในวงการศึกษาและวงการกล้วยไม้ จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น บิดาแห่งกล้วยไม้ไทย

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางศาลมีคำสั่งให้ศาสตราจารย์ระพี สาคริก เป็นคนไร้ความสามารถ ให้อยู่ในความอนุบาลของนางมาลีกันยา สาคริก ผู้ร้อง ตามคดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ 712/2560 คดีแพ่งหมายเลขแดงที่ พ 996/2560 โดยระบุว่ายื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ศาสตราจารย์ระพีเป็นคนไร้ความสามารถและให้อยู่ในความอนุบาลของ มาลีกันยา สาคริก บุตรสาวของศาสตราจารย์ระพี เนื่องจากป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ โรคพาร์กินสัน มีอาการสมองเสื่อม และโรคถุงลมเรื้อรัง ไม่สามารถทำงานและช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องมีคนคอยดูแลตลอดเวลา ถือว่าเป็นบุคคลวิกลจริต ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 28 โดยประกาศในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2560   ศาสตราจารย์ระพีถึงแก่อนิจกรรมในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 จากภาวะเลือดเป็นพิษเหตุติดเชื้อ สิริรวมอายุ 95 ปี

ภาพจาก moac.go.th - ขอขอบคุณ

ความดีและผลงานของท่านมีมากมายเหลือคณานับ ผมขอกราบคารวะด้วยความเคารพยิ่งครั

วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2568

โคโดคุชิ (Kodokushi)

าลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนมิอาจนิ่งดูดาย... ผมต้องเตรียมตัวสำหรับการตายโดยลำพังได้แล้ว!!


ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า...

ไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยโดยสมบูรณ์แล้ว แต่ปัญหาหนึ่งคือมีผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยที่ใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวโดยไม่มีญาติหรือลูกหลานดูแล สัดส่วนของคนแก่ที่อาศัยตามลำพังเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในปี 2564 มีผู้สูงอายุที่อยู่ตัวคนเดียวถึง1.6 ล้านคน หรือคิดเป็น 12% ของจำนวนผู้อายุทั้งหมด และอีก 21% อยู่ตามลำพังกับคู่สมรส...

ภาพจาก manager online - ขอขอบคุณ

ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน กล่าวใน The Standard ว่า

ตอนนี้ญี่ปุ่นกำลังเจอปรากฎการณ์โคโดคุชิ (Kodokushi) คือตายอย่างโดดเดี่ยวมากขึ้น จากเหตุผลของสังคมและประชากรของญี่ปุ่นที่อยู่ในภาวะสังคมผู้สูงอายุ ทำให้การตายอย่างโดดเดี่ยวในบ้านหรือที่พักอาศัยมีจำนวนที่เยอะขึ้น ในญี่ปุ่นมีผู้สูงอายุ 6 หมื่นกว่ารายเสียชีวิตโดยลำพังในปี 2024 ที่ผ่านมา...
ภาพ capture จากคลิป "ตายโดดเดี่ยว ฉากต่อไปของสังคมไทย" โดย The Standard - ขอขอบคุณ

ภาพ capture จากคลิป "ตายโดดเดี่ยว ฉากต่อไปของสังคมไทย" โดย The Standard - ขอขอบคุณ

ภาพ capture จากคลิป "ตายโดดเดี่ยว ฉากต่อไปของสังคมไทย" โดย The Standard - ขอขอบคุณ

ภาพ capture จากคลิป "ตายโดดเดี่ยว ฉากต่อไปของสังคมไทย" โดย The Standard - ขอขอบคุณ

ด้วยความชื่นชม...ผมเคยเห็นรอยสักบนแขนของชายใจดีคนหนึ่งมีใจความว่า "ผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาและวิจัยให้แก่คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่......"  
 
 
ทีแรกก็อยากจะสักตาม (แถมยังจะเพิ่มคำว่า No CPR บนแผ่นอก) แต่คิด ๆ ดูแล้วว่าอายุของผมมากแล้ว ใกล้เวลาที่จะนำร่างกายของผมไปใช้ หากไม่ได้ตายด้วยอุบัติเหตุ การตายโดดเดี่ยวซึ่งร่างกายยังสภาพดีก็จะสามารถเอาไปศึกษาได้อย่างสมบูรณ์ ผมจึงเลิกล้มความคิดที่จะสัก แต่จะเตรียมตัวใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ติดดิน ไม่ขึ้นที่สูง ไม่เสี่ยง ซึ่งถ้าจะให้ดีแล้วควรต้องย้ายจากอาคารพาณิชย์ที่อยู่ในปัจจุบัน ไปหาที่อยู่ใหม่ในบ้านชั้นเดียว ไม่ต้องขึ้นบันได อยู่ติดดินและไม่ต้องเดินบนพื้นคอนกรีตลื่น ๆ เรื่องนี้คงต้องหาทางขยับขยายภายในปีนี้ เพื่อรองรับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นด้วย
 
ถ้าถามว่าแล้วยังอยากจะปั่นจักรยานท่องโลกอยู่มั้ย? คำตอบคือ "หากเป็นไปได้ ผมก็จะทำตามที่ฝันไว้กับสหัสเดช" แต่จะไม่ผิดหวังและเสียใจหากไม่ได้ทำ...
 
 
ทุกครั้งที่เดินทางกับเจ้า Banian จักรยานพับล้อ 20 นิ้ว ก่อนจะกดปุ่มสวิชเพื่อเปิดประตูรถดีเซลรางลงไปยังชานชาลาสถานีรถไฟ ผมรู้ว่าประตูกำลังจะเปิดให้ก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางที่รออยู่ข้างหน้า เวลามีไม่มากนักแล้ว จะเหลืออีกสักกี่ครั้งที่ตาแก่คนนี้จะมีโอกาสได้เอื้อมมือไปกดสวิชเปิดประตู...


ไม่กลัวอะไรทั้งนั้นครับตอนนี้ สงบ...และพร้อมเสมอสำหรับโคโดคุชิ (Kodokushi)

คิดถึง ศจ. ระพี สาคริก

ผ มนำกระป๋องเพาะต้นไม้มาวางไว้ริมหน้าต่างให้ได้รับแสงสว่าง แล้วคอยพรมน้ำให้บ้างตามสมควร... มิได้เป็นคนมือเย็น ผมไม่ได้ตั้งความหวังว่าต้นไม้ท...