วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2562

my new blog

ให้เวลาตัวเองไว้อีกแค่เพียง ๔ ปีที่จะมีชีวิตอยู่ในวัฏจักรแห่งการเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ ตาแก่เมืองรถม้าสิ้นหวังเสียแล้วที่จะได้เห็นสิ่งที่อยากเห็นในเมืองไทย อันศิวิไลซ์ ไร้ซึ่งความอยุติธรรม และมีประชาธิปไตยเต็มใบ !



ถึงอย่างไรในช่วง ๗ ทศวรรษที่ผ่านมา ผมก็ได้ประสบการณ์ในชีวิตที่ดีมากมาย เป็นเด็กชายที่เกิดมาในครอบครัวคนขายกาแฟธรรมดาหาเช้ากินค่ำ ได้เห็นสยามเมืองยิ้มนับแต่จำความได้ตอนเที่ยวงานฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ จากยุคเผด็จการสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เรืองอำนาจ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนถึงวันที่ประเทศไทยมีผู้นำน่าอับอายที่สุดในจักรวาลที่กำลังนำพาประเทศสู่ความถดถอย...

แต่ขณะเดียวกัน ถ้าผมหลับตาและปิดหูเสียข้างนึง ก็ยังคงได้เห็นสิ่งที่สวยสดงดงามอีกไม่น้อย โชคดีเหลือเกินที่ได้เข้าโรงเรียนมงฟอร์ต และวิทยาลัยเทคนิค ทำให้ได้เพื่อนที่เป็นกัลยาณมิตรมากมายหลายคน มิตรภาพอันแสนดีจะชะโลมใจผมไปจนถึงวันตาย แม้โอกาสพบกันอีกจะหาได้ไม่ง่ายนักก็ตาม...

หลังจากปลีกตัวไปติดตามข่าวสารประเทืองปัญญาอาทิเช่น การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (climate change), ประวัติศาสตร์โลก, วิทยาการสมัยใหม่, เศรษฐกิจและสังคม, ฯลฯ  นานพอสมควร ... ผมก็อยากจะสร้างบล็อกขึ้นมาอีก ๑ บล็อก โดยตั้งชื่อมันว่า "COUNTDOWN"

เป็นการนับถอยหลังสู่ความตายอันเป็นสัจจธรรมแห่งชีวิต ว่าด้วยการก้าวเดินสู่จุดหมายสุดท้ายของชีวิต เรื่องภัยพิบัติ และการเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้...

เพื่อน ๆ ที่รักครับ ผมมิได้หวังว่าจะมีผู้อ่านเป็นร้อยเป็นพัน ขอแค่เพียงได้แลกเปลี่ยนความคิดความเห็นกับคนที่เข้าใจในชายแก่ผู้ไร้ยศถาบรรดาศักดิ์ไม่มีบำเหน็จบำนาญ ความรู้น้อย ไม่มีสีเสื้อ แต่เกลียดความอยุติธรรมอย่างเข้าไส้คนนี้ก็พอ!

ชีวิตแสนสั้น... จะเหลืออีกสักกี่วันที่จะได้ยินสำเนียงและเห็นความงดงามที่ยังเหลืออยู่ !   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คิดถึงพี่ดำรง สุ่นกุล

ผ มเพิ่งโพสต์เรื่อง "จากสามเหลือหนึ่ง" ลง บล็อก countdown ได้ไม่นาน... หลายต่อหลายคน จากผมไปแล้ว วันนี้เจอกระดาษซึ่งพี่ " ดำ...