จาก ๑๐ ปีที่แล้ว (๒๕๕๓) มาถึงวันนี้ ๒๕๖๓ ต้องบวกอีก ๑๐ ปี กลายเป็น ๒๐ ปี หุหุ ผมเกือบไม่เชื่่อว่าตัวเองเคยเขียนไว้ว่า...
ช่างเป็นการบังเอิญเหลือเกินที่ผมเห็นเศษกระดาษชิ้นหนึ่งตกอยู่ที่พื้นใกล้ ๆ กับกองสัมภารกซึ่งอยู่ใต้โต๊ะแล้วหยิบขึ้นดู…
มันเป็นข้อความที่ผมเขียนไว้เมื่อปลายปี ค.ศ. 1999 แล้วสั่งพิมพ์ลงบนกระดาษแบบต่อเนื่องด้วยเครื่องพิมพ์ประเภท dot matrix ซึ่งผมจำไม่ได้แล้วว่าเป็นเครื่องไหน (เคยมีเครื่องพิมพ์ใช้มากมายหลายตัวเหลือเกิน) พี่จันทร์สมเคยบอกว่าผมเป็นคนบ้าสมบัติ ฮา เห็นจะจริง ทั้งเครื่องพิมพ์ดีด (typewriter) และเครื่องพิมพ์ (printer) ผมคิดว่ารวมแล้วมันน่าจะเกือบยี่สิบตัวเห็นจะได้ หมดเงินไปหลายหมื่นแล้วจ้า
ข้อความที่ปรากฏบนกระดาษชิ้นดังกล่าวมีเพียงแค่ ๗-๘ บรรทัดเพราะส่วนที่มีต่อนั้นพิมพ์ไม่ติด น่าเสียดายที่มันบอกไม่ได้ทั้งหมดว่าตอนนั้นผมคิดอะไรอยู่ เท่าที่อ่านได้มีแต่เพียงว่า…
When I start counting down
ใกล้ปี ค.ศ. 2000… มีคนบอกว่าโลกกำลังจะแตก สงครามกำลังจะเกิด และอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าอย่างงั้นก็ไม่ต้องทำอะไรเลยดีไหมล่ะ ขอนอนรอความตายลูกเดียว? คิดถึงคุณชวลิตกับคุณเพ็ญประภา เขาเพิ่งจะเริ่มงานที่บ้านใหม่ที่ซื้อไปจากเราได้แค่ 8 เดือนเอง แล้วจะทำอย่างไรกับหนี้สินที่ทำไว้กับทางธนาคารทหารไทย หรือรอให้น้ำแข็งละลายกลายเป็นน้ำท่วมโลกเสียก่อน เอกสารทั้งสัญญากู้และโฉนดอาจจะถูกเผาและถูกทำลายไปสิ้น คิดอย่างนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว ตึก HW ที่เราซื้อไว้ล่ะ มันจะต้องฟังไป ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ใช้งานเลยหรือนี่…”
“เอกสารชิ้นนี้บอกอะไรผมบ้าง?” มันแสดงให้เห็นว่าเวลานั้นผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน เผลอแป๊ปเดียวก็ครบหนึ่งทศวรรษ! แปลกจังที่เมื่อสิบปีก่อน ผมก็เริ่มคิดถึงชีวิตที่ก้าวเดินสู่ความตายแล้ว คงเป็นเพราะการจากไปของแม่ปราณี และชีวิตที่มองไม่เห็นหนทางเดินที่ชัดเจนของผมในช่วงนั้นด้วยกระมัง...
ภาพที่ผมนำมาโพสต์ประกอบคือภาพดอกไม้จันทน์ ถ่ายที่สุสานไตรลักษณ์ ประตูม้า อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เมื่อผมไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ฐาปนพงศ์ รัตนชมพู อาจารย์สาขาวิชาดนตรี คณะมนุษยศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ในวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๓
ทำให้ผมต้องกลับไปค้นหาไฟล์รูปเก่าซึ่งถ่ายด้วยกล้อง Olympus (มิว 20) เมื่อ ๒ ทศวรรษที่แล้ว...
ได้ภาพมาอีก ๓ บานดังนี้...
อาจารย์ฐาปนพงศ์จากพวกเราไปแล้วตั้ง ๒๐ ปีเชียวหรือนี่?